สมัครฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่าย ... ซื้อใช้เองก็คุ้มค่า...ได้ส่วนลดทันที 26% ขายง่าย กฏหมายบังคับ ติดต่อสมัครเป็นตัวแทนด่วน !!!

พรบ+ประกันภัย

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ทำอย่างไรจึงจะรวยเร็ว?

ความจริงของเงินกับเวลา

          คนบางคน...มีเงิน...แต่ไม่มีเวลา คือ ทำงานหาเงินอย่างเดียว
      

      คนบางคน...มีเวลา...แต่ไม่มีเงิน คือ ไม่มีงานทำ
          

      * คนบางคน...ไม่มีทั้งเงินและเวลา คือ มนุษย์เงินเดือน
 

"แต่ถ้าคุณมีทั้งเงินและเวลา คิดว่าดีไหม?"

ถ้าคิดว่าดี...แล้วงานอะไรละ?

ในหนังสือ Rich Dad Poor Dad (พ่อรวยกับพ่อจนสอนลูก) ของ Robert T. Kiyosaki มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ได้กล่าวว่า 

“ เรากำลังสร้างท่อหรือลากถัง” “ เรากำลังทำงานอย่างหนักหรืออย่างฉลาด”

ในปี 1985 ผู้เขียนและภรรยาจน จนไม่มีบ้านที่จะใช้อยู่อาศัย แต่ตอนนี้เขาสามารถที่จะมีรายได้โดยที่เขาไม่ต้องทำงาน เขาทำได้อย่างไร?

 

“เงินสี่ด้าน” หมายถึงรายได้ที่มาจากงานสี่ประเภท 

E (Employee) = มีรายได้จากเงินเดือน

S (Self - employed)  = มีรายได้จากธุรกิจของตนเอง

B (Business Owner) = มีรายได้จากกิจการที่คุณเป็นเจ้าของ

I (Investor) = มีรายได้จากการลงทุนต่างๆ




เราทุกคนเลือกยืนอยู่บนด้านใดด้านหนึ่งของ “เงินสี่ด้าน” ขึ้นอยู่กับว่า...รายได้ของคุณมาจากอะไร? เรื่องเกี่ยวกับกลุ่มคนสี่ประเภทที่อยู่ในโลกของธุรกิจ และมีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน การทำรายได้ของคนทั้งสี่ประเภทแต่ละคนที่ทำงานสามารถที่จะอยู่ได้ในทุกด้านไม่ใช่ด้านใดด้านหนึ่ง และคุณสามารถที่จะหาเงินได้จากเงินทั้งสี่ด้าน การสร้างรายได้โดยวิธีใดก็ตามจากเงินสี่ด้านนี้ ตัวกำหนดของมันคือ ความคิดและความสนใจ ความแตกต่างของเงินสี่ด้านอาจกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า การกระทำไม่สำคัญเท่าความคิด ไม่มีด้านใดที่ดีกว่ากัน เพราะแต่ละด้านมีจุดอ่อนจุดแข็งที่แตกต่างกัน

สิ่งที่คิดว่ามีความสำคัญสำหรับพ่อทั้งสอง

พ่อจน                                                       พ่อรวย
ไม่สนเรื่องเงินๆ ทองๆ                                 มีเวลากับครอบครัว
ไม่มีวันรวย                                 มีเงินสำหรับอุทิศเพื่อการกุศล
ไม่มีปัญญาซื้อ                        สร้างงานและความมั่นคงให้ชุมชน
การลงทุนเป็นความเสี่ยง                       มีเวลาและเงินเพื่อดูแลสุขภาพ
เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต         มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก


“เงินสี่ด้าน คนสี่ประเภท” มีความแตกต่างกันอย่างไร?
 

ลูกจ้าง E (Employee) - งานมั่นคง เงินเดือนดี พร้อมผลตอบแทน
 

คนทำธุรกิจส่วนตัว S (Self - employed) - หาคนดีเหมาะกับงานยากจริงๆ และคนกลุ่มนี้ไม่ชอบจ้างผู้ร่วมงานหรือสอนงานให้คนอื่น เพราะว่ากลัวจะกลายเป็นคู่แข่งในวันข้างหน้า
 

เจ้าของกิจการ B (Business Owner) - ผมกำลังมองหาคนมาร่วมงาน หาคนเก่งที่มีความสามารถมาร่วมงานและชอบแจกจ่ายงานให้ทีมงาน
 

นักลงทุน I (Investor) - คนกลุ่มนี้ไม่ทำงานเพื่อเงินแต่ใช้เงินทำงานแทน 

     ความแตกต่างของเงินสี่ด้าน




Have A Job = มีงานทำ


Own A Job = เป็นเจ้าของงาน


Own A System = เป็นเจ้าของระบบและคนงาน


Own Investment = ใช้เงินทำงานแทน





ความลับของคนรวย 2 ประการ
• OPT – Other People Time (เวลาของคนอื่น)
• OPM - Other People Money (เงินของคนอื่น)
 

ทำไมคนจึงเลือก ความมั่นคง แทนที่จะเลือก อิสรภาพ...

 

สิ่งเหล่านี้ต่างกันอย่างไร?
• ความมั่นคงของงาน คนในกลุ่มนี้มีการศึกษาดี มีประสบการณ์ทำงานมาก และมักปฏิบัติงานได้อย่างดีเยี่ยม คนเหล่านี้จะรู้สึกการขาดความมั่นคงทางการเงิน เพราะถูกสอนให้ทำงานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
• ความมั่นคงทางการเงิน เงินเพียงอย่างเดียวไม่ทำให้เกิดความมั่นคง เพราะทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ความมั่งมีจะถูกเปลี่ยนมือ
• อิสรภาพทางการเงิน สามารถใช้เงินทำงานแทนตนเอง จึงมีอิสระที่จะเลือกทำหรือไม่ทำงานก็ได้ ความรู้ทางด้านการลงทุนยังนำอิสรภาพทางกายมาให้อีกด้วย
 
ด้านซ้ายเสี่ยงกว่า – คนเหล่านี้ยังคงยึดอยู่กับงานและตำแหน่งที่มั่นคง เมื่อร่างกายไม่สามารถที่จะทำงานได้ก็จะทำให้ไม่มีรายได้
ด้านขวามั่นคงกว่า – เพราะถ้ามีระบบที่ดีคุณก็ไม่จำเป็นต้องไปทำงาน แต่ระบบที่ดำเนินอยู่ก็สามารถที่จะผันเงินเข้ามาในกระเป๋าของคุณได้
 


ข้อสรุปของการเป็นเจ้าของกิจการ (Business Owner)
1. ประสบการณ์และความรู้ ถ้าคุณเริ่มจาก “เจ้าของกิจการ” คุณมีโอกาสพัฒนาไปเป็น “นักลงทุน”ที่มีฝีมือได้
2. กระแสเงินสด ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ คุณควรจะมีเงินและเวลามาสนับสนุนการลงทุนที่ขึ้นๆ ลงๆ

การที่จะเลือกมาอยู่ทางด้านขวา เป้าหมายของคุณคือการมีระบบและคนทำงานให้คุณ คุณจะสร้างระบบขึ้นมาหรือซื้อระบบคนอื่นมาใช้ก็ได้
ปัจจุบันมี 3 ระบบให้คุณเลือกใช้ดังนี้
1. บริษัทซึ่งคุณสร้างระบบขึ้นมาด้วยตัวคุณเอง
2. แฟรนไชส์ ซึ่งคุณซื้อระบบจากคนอื่น
3. การตลาดแบบเครือข่าย
แต่ละระบบมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน ที่เหมือนกันก็คือถ้าคุณทำสำเร็จไม่ว่าจะเลือกระบบใด คุณจะมีรายได้ที่แน่นอน โดยไม่ต้องไปตรอกบัตรทำงานอีกเลย 

การก้าวไปสู่การเป็นเจ้าของกิจการได้อย่างรวดเร็วมี 3 วิธี คือ
1. หาต้นแบบ ต้นแบบคือคนทำงานที่มีประสบการณ์ เคยทำและประสบความสำเร็จมาแล้ว พ่อรวยสอนเรื่องระบบและการเป็นผู้นำไม่ใช่เป็นผู้จัดการ เพราะผู้จัดการมักมองลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาในแง่ที่ด้อยกว่า แต่ผู้นำต้องรู้จักใช้คนที่เก่งกว่าฉลาดกว่า
2. แฟรนไชส์ วิธีเรียนระบบธุรกิจอีกวิธีหนึ่งคือการซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งคุณจะได้ระบบที่ผ่านการรับรองแล้วว่ามี คุณภาพแน่นอนและมีแฟรนไชส์ดีๆ ให้คุณเลือกมากมาย
3. การตลาดแบบเครือข่าย หรือเรียกอีกอย่างว่าการขายตรง หรือเครือข่ายหลายระดับ บางท่านอาจจะบอกว่า เป็นเรื่องหลอกลวงหลังจากได้ศึกษารายละเอียดของระบบหลายรูปแบบจึงมีการเปลี่ยนใจในเวลาต่อมา 


...การที่จะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่คุณจะต้องมีวิธีคิดที่เปลี่ยนไป พ่อรวยมักเน้นย้ำเสมอว่าอย่าทำงานเพื่อเงิน เราต้องรู้จักสร้างระบบให้มันทำงานแล้วได้เงินถึงจะถูก 
    


ทำอย่างไรจึงจะรวยเร็ว?
เงินสี่ด้านหมายถึงความคิดไม่ใช่การกระทำ การที่จะย้ายจากทางด้านซ้ายมาเป็นด้านขวาเป็นเรื่องของความคิดไม่ใช่การกระทำ ความฉลาดทางอารมณ์ คือการรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ได้ เพราะว่าความฉลาดทางอารมณ์ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก...

  • ความแตกต่างของลูกจ้างและเจ้าของกิจการ
...ลูกจ้างมักคิดว่าทำงานหนักเงินเดือนน้อย และนายจ้างมักคิดว่าทำอย่างไรจึงจะให้ลูกจ้างทำงานมากขึ้น รักองค์มากขึ้น...
  • ความแตกต่างของเจ้าของกิจการและนักลงทุน
...แต่ละฝ่ายย่อมเกิดความขัดแย้งกันได้ เมื่อฝ่ายหนึ่งต้องการเพิ่มเงินในการดำเนินการแต่อีกฝ่ายหนึ่งต้องการเพิ่มเงินปันผล...
  • ความแตกต่างของลูกจ้างและนายทุน
...คนทำธุรกิจส่วนตัวจะเห็นว่าสิ่งที่ตนเองได้รับไม่คุ้มค่ากับแรงงานที่สูญเสียไป ส่วนเจ้าของกิจการคิดว่าเงินที่เขาเสียไปอาจจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน...
  • ความแตกต่างของลูกจ้างและนักลงทุน
...ลูกจ้างทำงานได้รับเงินเดือนและถูกหักภาษี นักลงทุนนำเงินจากธนาคารมาลงทุนและได้รับเงินเป็นจำนวนมากโดยไม่เสียภาษี...